จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ข่าว อัยการพระองค์ภาฯช่วยเหยื่อม.2ถูกข่มขืน‏






อัยการพระองค์ภาฯช่วยเหยื่อม.2ถูกข่มขืน‏

อัยการโครงการพระองค์ภาฯช่วยเหยื่อ ม.2 ถูกข่มขืน แต่ถูกดำเนินคดีมีดแทงคนร้ายตาย ชี้หากเป็นการป้องกันตัวถือว่าไม่ผิดแม้ทำคนเสียชีวิต พร้อมเตรียมเรียกเงินค่าชดเชย

              23พ.ย.2555 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และรองผู้อำนวยการโครงการยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เปิดเผยภายหลังเข้าให้กำลังใจครอบครัวเด็กนักเรียนหญิง ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการที่ถูกข่มขืน และถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยใช้มีดแทงคนร้ายเสียชีวิตว่า หลังจากทราบข่าวทางหนังสือพิมพ์แล้วรู้สึกเป็นห่วงความเป็นธรรมต่อเด็กนักเรียนหญิงที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรง จึงได้รายงานไปยังอัยการสูงสุดซึ่งได้รับคำสั่งให้เร่งเข้าไปให้ความช่วยเหลือทางด้านคดีอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเด็กนักเรียนหญิงดังกล่าวตกเป็นเหยื่อความรุนแรงของคนร้ายที่เข้ามาข่มขืนแล้ว ยังเป็นครอบครับที่ยากจนซึ่งอาจไม่มีความรู้คดีด้านกฎหมาย ตนจึงรีบเข้าไปให้กำลังใจและให้ความระมัดระวังเนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน โดยได้เข้าพบผู้ปกครองพร้อมบอกเราจะให้ความช่วยเหลือด้านคดี โดยจะให้อัยการเจ้าของพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการในพื้นที่เกิดเหตุเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามขณะนี้ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปสำนวนมาก่อน จากนั้นอัยการจะพิจารณาสำนวนสั่งคดีต่อไป
                นายโกศลวัฒน์ กล่าวด้วยว่า หากเหตุการณ์เป็นจริงตามที่สื่อมวลชนเสนอข่าวไปคือ คนร้าย 2 คน ใช้มีดจี้บังคับพาไปข่มขืน และเหยื่อเด็กหญิงใช้มีดเล่มเดียวกันนั้นแทงคนร้ายเสียชีวิต ทางกฎหมายกำหนดให้เป็นการป้องกันตัวได้แม้คนร้ายจะเสียชีวิต แต่ก็ถือว่าไม่มีความผิดแต่อย่างใด ซึ่งเราต้องเข้าไปช่วยให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ โดยหลังจากตนเข้าไปพบแม่เด็กหญิงแล้วถึงกลับน้ำตาคลอที่ได้รับความช่วยเหลือ ซึ่งตนได้ให้นามบัตรพร้อมเบอร์โทรศัพย์ติดต่อ หากระหว่างนี้ไม่รู้จะปรึกษาใคร หรือกังวลใจเรื่องใดก็ให้โทร.มาปรึกษาได้ตลอดเวลา ซึ่งแม่เด็กหญิงก็ได้แสดงความดีใจและหายกังวลกับคดีที่เกิดขึ้น
              นายโกศลวัฒน์ กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ละเอียดอ่อนเราต้องระมัดระวังอย่างมาก เพราะเป็นการกระทำรุนแรงต่อเด็กนักเรียนหญิงที่อาจตกเป็นจำเลยสังคม และอาจอยู่อย่างลำบาก ซึ่งหลังเข้าไปให้กำลังใจแล้วสภาพเด็กยังรู้สึกกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตนเห็นแล้วเห็นว่าเป็นเด็กเรียบร้อย และหลังจากนี้ตนอาจต้องตามไปทำความเข้าใจกับทางโรงเรียนและเพื่อนนักเรียน เพื่อให้เขาได้เรียนอย่างเป็นปกติสุข ไม่มีปัญหาอะไรมากระทบจิตใจ นอกจากนี้หากผลสรุปท้ายว่าเหยื่อเด็กนักเรียนหญิงไม่มีความผิดแล้ว ทางอัยการจะช่วยดำเนินการในการเรียกร้องเงินเยียวยาและชดเชยค่าเสียหายตามกฎหมายคุ้มครองสิทธิ เพราะได้มีการกักเด็กไว้ในสถานพินิจก่อนที่ผู้ปกครองจะประกันตัวออกมา

               สำหรับความคืบหน้าของคดีนั้นพ.ต.ท.อัครวัฒน์ ทับเกตุ สารวัตรเวร สภ.พระประแดง เจ้าของคดีได้พาตัวเด็กหญิงคนดังกล่าวว่าเข้าทำการสอบปากคำต่อหน้าอัยการจังหวัดสมุทรปราการ โดยมีทนายความ พ่อ-แม่ของผู้เสียหาย และนักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา เข้าร่วมรับฟังการสอบสวน

               นางสาวอุทัยวรรณ ถานานนท์  ผู้ช่วยอัยการจังหวัด กล่าวว่า  สำนักงานอัยการจังหวัดสมุทรปราการได้ลงมาดูแลในเรื่องนี้ทั้งในด้านของกฎหมายและการคุ้มครองเด็กซึ่งเป็นผู้เสียหายและผู้ต้องหา ซึ่งจะต้องดูแลในทุกเรื่องแม้กระทั่งเรื่องของครอบครัวของเด็กซึ่งเป็นผู้เสียหาย

               ส่วนการดำเนินการตามรูปแบบต่าง ๆ ของกฎหมายและจะจัดให้มีทนายเข้าร่วมในการสอบปากคำของเด็กในแง่ของกฎหมายเด็กอยู่ในระหว่าง 2 สถานะเป็นทั้งผู้ต้องหาและเป็นผู้เสียหาย ฉะนั้นในแง่ของผู้เสียหายจะต้องมีการสอบปากคำ โดยมีทนายและอัยการร่วมทั้งญาติที่เป็นพ่อและแม่ของเด็กร่วมรับฟังอยู่ด้วย และนำผู้กระทำผิดมาดำเนินการลงโทษตามกฎหมาย

               ส่วนในฐานะผู้ต้องหาต้องมีทนายผู้ปกครองญาติญาติและเจ้าพนักงานสอบสวนเข้ารับรับฟังการสอบปากคำของผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กที่ยังไม่บรรรุนิติภาวะ ซึ่งอาจมีการข่มเหงให้ผู้เสียหายที่ยังเป็นเด็กให้ยอมรับผิดไม่ได้ รววมถึงพนักงานสอบสวน จะมีการพูดจาหรือล่วงละเมิดได้  อาจทำให้เด็กมีความรู้สึกไม่ดี
               พ.ต.อ.วัชรินทร์ ประสพดี ผกก.สภ.พระประแดง สมุทรปราการ กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีที่ประชาชนสนใจต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย โดยตั้งชุดสอบสวนขึ้นมาทำคดีนี้โดยเฉพาะมี พ.ต.ท.เจริญ พลเดช พงส.(สบ3)กับพวกรวม  นาย  ร่วมคลี่คลายคดีให้เร็วที่สุด และได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่หาพยานหลักฐานประกอบคดีเพื่อขอหมายจับนายแจ้ไม่ทราบนามสกุล มาดำเนินคดีตากฎหมายในข้อหา หน่วงหน่วยกักขังผู้อื่น พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาไปเพื่ออนาจารและกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน  15 ปี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น